คู่มือการเลี้ยงลูกให้ถูกธรรม

โอ๊ะ ๆ อย่าเพิ่งปิดหน้านี้นะคะ อ่านก่อน ๆ ไม่มีอะไรโบราณหรือน่าเบื่อหรอกคะ เราจะพยายามสรุปสั้น ๆ ตามที่เราได้เข้าใจมา ลองอ่านกันดูนะคะ

หน้าปก
click to comment

– พูดถึงธรรมะ บางท่านอาจคิดว่า “น่าเบื่อโว้ยน่าเบื่อ ๆ”
– พูดถึงการเลี้ยงลูก บางท่านอาจคิดว่า “โอ้ย ฉันไม่มีลูกหรอกย่ะ ยังไม่มี ไม่คิดจะมี ชาตินี้คงไม่มี หรืออะไรก็ว่าไป”
แต่เอาน่า ลองอ่านผ่าน ๆ เผื่อ ๆ ไว้ อาจได้ใช้ดูแลน้อง หลาน หรือเด็กข้างบ้าน จะได้รู้ว่าควรดูแลยังไงให้เขามีธรรมะ มันไม่มีอะไรที่ยากลำบากหรอกค่ะ หากคุณเข้าใจแก่นที่แท้จริงของพุทธศาสนา

ก่อนอื่นขอเล่าก่อนว่า หนังสือเล่มนี้ เราได้มาจากลูกสาวผู้เรียบเรียง เพราะว่าลูกสาวผู้เรียบเรียงคือเพื่อนสนิทเราเอง
ผู้เรียบเรียงหนังสือนี้คือคุณแม่ของจุ๊บ ท่านเป็นเจ้าของโรงเรียนอนุบาลสัตย์สงวนอนุสรณ์ ที่เราขอสรุปสั้น ๆ ว่า โรงเรียนอนุบาลแห่งนี้ สอนเด็กโดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา และมีวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งโรงเรียนขึ้นมาเพื่อสืบสานปณิธาน ๓ ประการของท่านอาจารย์พุทธทาสภิกขุ คือ ๑) ทำตนให้เข้าถึงหัวใจศาสนาของตน ๒) นำตนออกจากอำนาจของวัตถุนิยม ๓) ทำความเข้าใจระหว่างศานา ซึ่งเราเชื่อว่า ผู้ใหญ่หลายคนที่ชอบบอกว่าตัวเองเป็นพทธศาสนิกชนนั้น ยังรู้จักหัวใจพระพุทธศาสนาน้อยกว่าเด็กอนุบาลของโรงเรียนนี้เลยด้วยซ้ำ

ธรรมะ ก็คือ ธรรมชาติ

ขอยกตัวอย่างข้อความในหนังสือเล่มนี้ อยากให้อ่านดู
ถ้าจะอ่าน ก็กด View full image (ด้านขวามือนะคะ จะแสดงรูปใหญ่)

ในกรณีที่เด็กทะเลาะหรือเถียงกัน
click to comment
click to comment

สิ่งที่พ่อแม่พึงระมัดระวังในการฝึกประสาทสัมผัสของลูก
click to comment

ใครอยากได้หนังสือเล่มนี้ ก็ติดต่อไปที่
click to comment

เราไม่ได้มาโฆษณาโรงเรียนหรอกนะคะ ถ้าหากใครพอจะติดตามบล็อกของเรามาบ้าง อาจจะเคยเห็นว่าเราโปรโมตโรงเรียนนี้จังเลย รับเงินมาเท่าไร อะไรทำนองนี้ ขอบอกตรงนี้เลยว่าเราไม่ได้รับเงินค่ะ และไม่เคยรับจ้างด้วย เรากล่าวถึงโรงเรียนนี้จากความรู้สึกเห็นด้วยและศรัทธา เพราะตั้งแต่เรารู้จักจุ๊บมา (เป็นเพื่อนสนิท เรียนป.ตรีด้วยกัน) เราก็ทราบว่าที่บ้านจุ๊บมีโรงเรียนอนุบาล แต่ไม่ค่อยทราบรายละเอียดเพราะไม่ได้ใส่ใจ จนสองสามปีที่แล้วจุ๊บมาปรึกษาเรื่องทำเว็บ เราก็ได้เห็นข้อมูลโรงเรียนมาบ้าง ก็เีริ่มสนใจและรู้สึกว่าแปลกดี เพราะตอนเราเรียนอนุบาล เราก็ไม่ได้เรียนแบบนี้ (ก็เรียนแบบที่คุณ ๆ เรียนแหละค่ะ เรียน ๆ ท่อง ๆ จำ ๆ + โดนตีประจำ ไม่เข้าใจอะไรเลย?) ก็รับรู้มาแต่ก็ไม่ได้อะไร แบบว่าก็ต้องเข้าใจนะคะ ในหััวเรามีเรื่องเข้าออกวันละหลายล้านเรื่อง (เวอร์แล้ว!) จนเทอมนี้เรียนวีดิโอ เราตัดสินใจทำสารคดีเรื่องโรงเรียนอนุบาลสัตย์สงวนอนุสรณ์ (เราคิดจะทำ ก่อนที่จะรู้ว่าโรงเรียนนี้ มีนิตยสารมาสัมภาษณ์ มีรายการมาถ่ายทำ ด้วยซ้ำ เพราะจริง ๆ เราจะทำเป็นสกู๊ปข่าว แต่อาจารย์ของเราบอกว่าเรื่องใหญ่มาก ทำสารคดีดีกว่า) พอมาทำสารคดี ได้นั่งคุยกับคุณแม่ ทำให้เราปิ๊งในหัวใจพุทธศาสนามาก ๆ คุณแม่อธิบายหลักธรรม (ที่เรียนวิชาพระพุทธไม่เข้าใจ) ได้ชัดเจนมาก ชัดเจนในภาษาปกติ เพราะเราบอกตรง ๆ ตอนเราเรียน เราไม่ชอบภาษาบาลีเลย เพราะเราแปลไม่ออกอ่ะ พอเป็นภาษาคนธรรมดา เราปิ๊งมาก ๆ บอกตรง ๆ ที่เรียน ๆ มา มาเข้าใจเพราะคุณแม่สรุปแหละ

ไม่ใช่เรื่องของความเชื่อหรือความศรัทธา (หรือความงมงาย) นะคะ

เราแค่พบเหตุและผล

และที่สำคัญ น้อง ๆ ที่โรงเรียนนี้ น่ารักมาก ๆ ไม่ได้ว่าเก่งฉลาดอะไรหรอกนะคะ แต่เท่าที่เราคุย ๆ น้องเขามีเหตุมีผล พูดรู้เรื่อง (เด็กอนุบาล) แม้จะจำชื่อเราไม่ได้ (หรือเรียกไม่ถูก) จำได้แต่เอกับบูมก็ตาม (ก๊าก… พอดีน้อง ๆ เขาเข้าใจว่าเราชื่อแอนท์อ่ะ คงเพราะเราพูดไม่ชัดนั่นเอง ฮือ…) น้องที่ดื้อก็มีนะคะ แต่คุณแม่จะเรียกมาคุยตัวต่อตัว พอถามน้องเขาแล้วน้องเขาก็ตอบได้นะคะ ว่าเขาทำไม่ดียังไง

มีสิ่งที่เราอยากบอกคือ
– เราว่าเราได้มีโอกาสที่ดีนะคะ เพราะ การดูงานโรงเรียนอนุบาลไม่ใช่เรื่องที่ทำง่าย อยากเข้าอยากออกเมื่อไรก็ได้นะคะ เพราะว่า เมื่อคุณเข้าไป มีผลต่อการเรียนการสอนค่ะ น้อง ๆ จะไม่เรียน จะตื่นตาตื่นใจกับคนที่มาขอดูงานจนไม่เป็นอันเรียน (ก็คนแหละค่ะ เวลามีคนมาดูงานหน่วยงานคุณ คุณยังมีสมาธิทำงานได้เหรอคะ อย่างน้อย ๆ ก็คงต้องแอบเหล่มองแล้วว่ามีสาวสวย ๆ หรือ หนุ่มหล่อ ๆ มาบ้างป่าว ก๊าก…)
– เราไม่ได้โปรโมตให้คนแห่มาเรียนที่นี่นะคะ เพราะ โปรโมตไปก็เท่านั้น โรงเรียนนี้รับนักเรียนจำกัดค่ะ เพราะว่า การเรียนการสอนที่เน้นการปฏิบัติ ต้องดูแลเอาใจใส่อย่างทั่วถึง รับเยอะ ๆ ไปก็ไร้ประโยชน์ค่ะ

ถ้าจะมองว่าเป็นการโปรโมต ขอให้อ่านนี้แทนแล้วกัน
มาเป็นโรงเรียนอุดมคติ ๓ กันเถิด
click to comment
ยุทธศาสตร์ลอยธรรมะมาลัย
โรงเรียนอนุบาลที่ไหนสนใจ ก็น่าจะไปศึกษาธรรมะจากโรงเรียนนี้ เพื่อจะได้นำมาปรับใช้กับโรงเรียนของท่าน คนรุ่นหลังจะได้ดีกว่าคนรุ่นเรา ๆ (เราคิดแบบนี้อ่ะนะคะ เพราะคนรุ่นเรา ๆ มันก็เป็นไม้แก่ไปหมดแล้ว ก๊าก… บางคนอาจปรับได้ แต่บางคนก็อย่าไปคิดปรับเขาเลยค่ะ เพราะถ้าเขาไม่คิดจะปรับตัวเอง ก็คงหมดหนทางแล้ว!)

ขอบอกจริง ๆ ว่าเราไม่ได้เป็นพวกคลั่งศาสนา เพราะตั้งแต่เด็ก ๆ เราก็ไม่เชื่อและไม่นับถือศาสนาด้วย (แม้จะมีเขียนไว้ในทะเบียนบ้าน ก็ตาม แต่ก็เท่านั้น พระไม่ไหว้ ไม่สวดมนต์ ไม่อะไรทั้งสิ้น ถ้าที่บ้านเขาไม่บังคับ แต่ถ้าสั่งให้ทำอะไรก็ทำตามนะ เพียงทำไปงั้น ๆ ไม่เข้าใจว่าทำทำไมกัน มาเริ่มเข้าใจเอาตอนจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย) เพราะเราไม่เคยรู้ว่าหัวใจพระพุทธศาสนา เป็นยังไงกันแน่
คนส่วนใหญ่อาจจะรู้อยู่ว่าหัวใจพระพุทธศาสนา คือ หลักโอวาทปาติโมกข์ (ศีล สมาธิ ปัญญา) แต่คุณเข้าใจหลักนี้แค่ไหนกัน? เพราะที่ผ่านมา เราไม่เข้าใจหรอก-แต่ท่องได้ เอิ๊ก ๆ แต่ ณ ตอนนี้ เราคิดว่าเข้าใจมากกว่าเดิมแล้วนะ
เราคงไม่ได้รอบรู้ในศาสนามากกว่าเดิมนัก แต่เราก็รู้ว่าสติเราอยู่ตรงไหน และ
เราก็ยังนับถือศาสนาในลักษณะเดิมนะ แต่คิดว่ามีความเข้าใจเพิ่มขึ้นกว่าเดิม และที่สำคัญที่สุดคือ
เรามองเห็นว่าความเป็นวิทยาศาสตร์ของพุทธศานา น่าจะช่วยให้คุณผู้อ่านใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้นับถือศาสนาพุทธเลยก็ตาม

ขออภัยถ้าเขียนยาวไป แต่ถ้าคุณอ่านจนจบ ก็ขอขอบคุณมาก ที่อ่านในสิ่งที่เราอยากบอกเล่า

เล่มหน้า จะรีวิวเล่มนี้
click to comment
เราซื้อเมื่อวันที่ ๑ ที่ผ่านมา (หนังสือคุณแม่ ได้มาวันที่ ๒) แต่เราอ่านหนังสือคุณแม่จบก่อน เลยเอามารีวิวก่อน
หนังสือคุณแอชตัน27 เป็นเล่มที่เราวางไม่ได้เลย (เราอ่านวันที่ ๓ ตอนก่อนนอน ใกล้เที่ยงคืน กะอ่านเล่นสัก ๒ บท แต่ทำไปทำมาอ่านถึงตีสอง เอิ๊ก ๆ จบเล่มเลย ถือเป็นหนังสือที่อธิบายธรรมด้วยภาษาคนธรรมดา เราชอบมากเลยอ่ะค่ะ อยากให้คุณหามาอ่านกันจัง บางทีเราอาจจะไม่รีวิวหรอก เอาว่าคุณหามาอ่านกันเองดีกว่า เพราะถ้าคุณได้อ่านแล้ว คุณจะรู้สึกว่า “ดีนะที่ซื้อหนังสือมา อยากอ่านเมื่อไรก็หยิบอ่านได้เลย” คุณคงไม่อ่านหนังสือเล่มนี้หนเดียวแน่นอน เชื่อเราเถอะค่ะ 😀

ปล. ขออภัยค่ะ ที่ภาพประกอบนั้นมาจากการถ่ายหนังสือที่วางบนตัก ที่เป็นเช่นนั้นเพราะเราหาที่วางไม่ได้จริง ๆ ค่ะ ห้องนี้มันรกและโต๊ะคอมค่อนข้างมืด เลยต้องวางบนตักแทน ทำให้ดูไม่ค่อยดีนัก แต่อยากโพสต์จริง ๆ ค่ะ เลยรีบ ๆ ถ่าย (กลัวไม่มีเวลาโพสต์ เดี๋ยวต้องทำงานวีดิโออีกยาว – จริง ๆ กลัวลืมด้วยว่าจะเขียนว่าอะไร พอดีไม่ได้จด เล่าสด เอิ๊ก ๆ)

7 thoughts on “คู่มือการเลี้ยงลูกให้ถูกธรรม

  1. สวัสดีครับ

    อ่านแล้วก็ต้องขอบคุณที่เล่าสิ่งดีสู่กัน และผมก็เป็นศิษย์เก่า ส.ส.ว. เก่ามากๆ ตั้งแต่คุณครูฟู เป็นครูใหญ่ ถือไม้เรียวยาวๆ ทรงผมของท่านใส่น้ำมันหวีเสยเรียบแปร้ และมีครูฟิน (ผอมๆ) สอนภาษาอังกฤษ ลูกๆของคุณครูฟู เช่น พี่จุ๋ม พี่จิ๋ม น่าจะจำผมได้ดี ส่วนคนอื่นๆผมเลือนๆไป แต่ … จุ๊บ ผมไม่แน่ใจว่าจะรุ่นเดียวกันหรือไม่ แต่คุ้นๆว่าน่าจะรู้จัก

    ตอนนั้นหน้าโรงเรียนยังมีต้นมะฮอกกะนี ข้างๆโรงเรียนริมทางรถไฟ มีต้นมะกอก ชอบเก็บกินกัน โรงอาหารอยู่ด้านหลัง มีโปสเตอร์ของการรถไฟเป็นภาพเขียนสวยงามติดตามเสาโรงอาหาร เปห็นภาพเตื่อนใจระวังเกี่ยวกับรถไฟ ผมยังจำได้ดี

    ทุกวันนี้ยังต้องผ่านไปมาแถวสถานีสามเสนอยู่เรื่อยๆ มองย้อนระลึกถึงเรื่องราวที่นี่ อมยิ้มบ่อยครั้ง มีความสุขใจดีครับที่ยังเห็นโรงเรียนของผมและของเพื่อนๆ ยังคงอารมณ์เดิมๆให้หวลระลึกถึงครูบาอาจารย์ เพื่อนๆ

    ผมย้ำกับตัวเองเสมอว่าที่นี่คือที่หล่อหลอมกาย ใจ สติปัญญาให้แก่ผม … ขอบคุณครับ

    • คุณ tou อายุเท่าไรเหรอคะ
      คือ เท่าที่อ่าน คุณ tou เรียนโรงเรียนสัตย์สงวนวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนของตาและยายของจุ๊บอ่ะค่ะ (ปิดไปนานแล้ว)
      เหมือนจะคนละเจนเนอเรอชั่นกันเลย เอิ๊ก ๆ
      ขอบคุณที่มาแบ่งปันรอยยิ้มนะคะ เดี๋ยวหนูจะส่งไปให้จุ๊บดู จุ๊บจะได้ไปเล่าให้คุณแม่ฟัง (คุณแม่คืออาจารย์ฟูเฟื่อง อินทรสมบัติ หนูไม่แน่ใจว่าท่านคือพี่จุ๋ม พี่จิ๋ม หรือเปล่า พอดีไม่เคยถามชื่อเล่นของคุณแม่เลยอ่ะค่ะ)

  2. เรียนที่นี่เหมือนกันค่ะ ตั้งแต่อนุบาล 1 – ป. 6
    อาจารย์ฟูเฟื่อง เป็นคนสอนภาษาอังกฤษให้นะคะ อยู่ฝั่งอนุบาลรุ่นที่สร้างสระว่ายน้ำเสร็จพอดี มีอาจารย์เดือนฉาย เป็นคนประกาศชื่อนักเรียนเวลาผู้ปกครองมารับ ตอนนี้ทราบว่าแกเสียชีวิตแล้ว
    ตอนนั้นสามีอาจารย์ที่เป็นนักบิน นั้นประสบอุบัติเหตุต้องนั่งรถเข็นแล้ว มีลูก 2 คน จำแต่คนโต ชื่อ จุ๊บจิ๊บ นะคะ (ตอนเด็กๆ หน้าตา น่ารักมาก เป็นรุ่นน้องเรานิดหน่อยค่ะ) เวลาอาจารย์ฟูเฟื่องมาสอนจะเอาน้องจุ๊บจิ๊บมาด้วย และชอบเอาปากกาเขียนที่ข้างฝาห้องเรียน 555+ คิดว่าน้องทั้งสองโตมาต้องฉลาดแน่ๆ เพราะคุณแม่เก่งมาก
    ชอบอาจารย์ฟูเฟื่องมากนะคะ ทำให้เป็นแรงบันดาลใจในการเรียนภาษาอังกฤษ
    แต่ตอนนี้ฝั่งอนุบาลปิดไปแล้วนะคะ เสียดายมาก คิดว่ามีลูกจะให้มาเรียนที่นี่

    • เอ่อ พี่คะ เดี๋ยวหนูส่งคอมเมนต์ของพี่ให้จุ๊บ (จุ๊บจิ๊บ) อ่านนะคะ

      ที่พี่พูดถึงน่าจะเป็นโรงเรียนเก่าหรือเปล่าไม่แน่ใจนะคะ เพราะโรงเรียนสัตย์สงวนอนุสรณ์ก็ยังเปิดนะคะ แต่เฉพาะระดับเตรียมอนุบาลกับอนุบาล 1 2 3 ค่ะ ไม่มีประถมค่ะ

      ถ้ามีลูก ส่งมาเรียนเลยค่ะ 😀

  3. พี่หมายถึง โรงเรียนสัตย์สงวนวิทยาค่ะ ที่อยู่ข้างทางรถไฟ ข้างๆเป็นโรงกรองน้ำสามเสน น้องของจุ๊บจิ๊บ ชื่อจ๊อบค่ะ เพิ่งนึกออก

ส่งความเห็นที่ วรุณลักษณ์ ยกเลิกการตอบ