หนังสือสามเล่มนี้ มาอยู่บ้านเรา เพราะเราตั้งใจซื้อมาให้คนอื่น เราซื้อมาเมื่อ ๒ กรกฎาคม ๒๕๔๖ เพื่อมาแจกสายเทค ในวันเฉลยเทค (สมัยเรียนตรี) ตอนเราซื้อมาแบบส่งเดช แต่ในความส่งเดชของเรา มันก็ยังมีอะไรอยู่บ้าง
เราจำได้ เราต้องซื้อของแจก
เพื่อนเทคร่วมสองคน
พี่เทคตรงหนึ่งคน(ที่ลาออกไปแล้ว) พี่เทคร่วมสองคน
ป้าเทคตรงหนึ่งคน ป้าเทคร่วมหนึ่งคน
ย่าเทคตรงหนึ่งคน ย่าหรือปู่เทคร่วมจำไม่ได้หนึ่งคน
พี่บัณฑิตตรงหนึ่งคน พี่บัณฑิตร่วมหนึ่งคน
รวม ๑๑ ชิ้น
ซึ่งเราเลือกซื้อ
เล่มนี้
ขออภัย ไม่สะดวกตกแต่งสี ใช้มือถือถ่ายมืด ๆ
๔๘๑ ข้อคิด เพื่อชีวิตที่มีความสุข

เล่มนี้ให้เพื่อนเทค กับพี่เทค (ปีหนึ่งกับปีสอง) เหตุผลคือราคามันถูกสุด ราคาตอนนั้น ๕๕ บาท
ส่วนเล่มต่อไป
๑๐๐ ข้อคิด เพื่อชีวิตสุขสงบ

เล่มนี้ให้ปีสามกับปีสี่ เหตุผลคือ มันแพงขึ้นกว่าเล่มตะกี้ ราคาตอนนั้น ๘๕ บาท
และเล่มสุดท้าย
ร้อยความสุขในวันทำงาน

เล่มนี้ให้บัณฑิต เพราะแน่นอน ราคามันโคตรแพง ๑๓๐ บาท และบัณฑิตต้องไปทำงานแล้ว เราอยากให้เขามีความสุขในการทำงาน
ซึ่งเราซื้อมา ไม่ใช่แค่ ๑๑ ชิ้น แต่เป็น ๑๔ ชิ้น เพราะซื้อมาเป็นของตัวเองด้วยทุกเล่ม
เอาว่าจนไปเลย แต่เราชอบหนังสือนะ เราคิดว่าถ้าเราไม่รู้ว่ารสนิยมใครเป็นไง
เราจะซื้อหนังสือให้เขา เพราะมีสองทางที่เขาจะทำคือ อ่านมัน หรือเขวี้ยงมันทิ้งไป
(ก็คือไม่อ่านมัน จะเอาไปชั่งกิโลขายหรือให้กิ๊ก เอาไปบริจาคหรือยังไง ก็ช่างเขา)
เทคเรามาไม่ครบหรอก แต่เราก็ยกเล่มอื่นให้คนอื่นหมด จนเหลือสามเล่ม (ที่เป็นของเรา)
แต่เราไม่เคยอ่านมันเลย เล่มแรกอ่าน อ่านผ่าน ๆ สั้น ๆ ง่าย ๆ จบ ๆ ไม่อะไร
เล่มสอง อ่านไปไม่กี่สิบหน้า เบื่อ เลิกอ่าน
เล่มสาม ชอบ น่ารัก อ่าน ๆ คิด ๆ แต่ไม่เคยทำ เพราะยังไม่มีงานประจำ แต่ก็อาจจะทำบ้าง นึกไม่ออกบอกไม่ถูก
แต่ขอบอก สักเดือนที่แล้ว เราจัดชั้นหนังสือ เราเอาสามเล่มนี้ มาวางใกล้ ๆ มือ กะจะอ่านแล้วลองทำ ที่สำคัญคือเราควรอ่านเอาเรื่องในเล่มที่สอง ให้จบ เพราะเสียดายเงิน (เชื่อไหมคะ เราเป็นคนบ้าอย่างหนึ่ง ที่ต้องอ่านหนังสือทุกหน้า แม้แต่หน้าโฆษณา สารบัญก็ยังอ่าน ไม่มีข้าม ยิ่งกว่าบ้าอีก มีคนด่าเราด้วย แต่ทำไงได้ เราเป็นของเราแบบนี้ เสียเวลาก็เวลาของเรา เราว่ามันแล้วแต่คนนะ แต่ถ้าไม่อ่าน เราจะไม่อ่านเลย ไม่แตะเลย แต่ถึงอ่านทุกหน้าก็ไม่ได้แปลว่าต้องจำได้ทุกหน้านะ ไม่เคยคิดจำ)
เราเอาเล่มสองมาอ่านวันละสองข้อ อ่านค้างไว้ตั้งแต่ซื้อมา ไปถึงข้อยี่สิบกว่า ๆ อ่านทีละสองข้อก่อนนอนได้ไม่กี่วัน แม่ไป ร.พ. ไปเฝ้าแม่ คิดว่าจะอ่านจบ ขอบอก ไม่จบ ไม่มีกะใจอ่านเลย ตอนแม่นอนก็อ่านไม่ได้ แสงไม่พอ เมื่อวานแม่ไปตรวจ ก็เลยเอาไปอ่านตอนรอแม่กะป๋า อ่านจนจบอ่ะ รู้สึกเป็นหนังสือที่ดีมาก ในสามเล่มนี้ เรารักเล่มนี้ที่สุด ไม่เคยคิดว่า หนังสือเล่มนี้จะทำให้เรารักได้ขนาดนี้ จากเดิม เราอ่านได้หน่อยก็ทิ้งมันรกร้าง เลิกอ่านไปซะงั้น แปลกดีเหมือนกัน
ก็ไม่อะไรหรอกค่ะ แค่อยากจะชี้ให้เห็นว่า บางทีอะไรที่เราไม่เคยอยากมอง ไม่เคยอยากสนใจ ในวันหนึ่ง มันอาจกลายเป็นสิ่งที่เราขาดไม่ได้ หรือเป็นสิ่งที่สำคัญ หรือน่าสนใจสุด ๆ ไปเลยก็ได้ ดังนั้นอย่าพูด หรือ อย่าคิด เลยค่ะ ว่ามันเป็นไปไม่ได้ ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าหากมันเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว วันหนึ่งเราก็จะได้เห็นว่ามันเป็นยังไง
อย่าปิดกั้นเพียงเพราะความคิดที่ว่า มันเป็นไปไม่ได้
อืม อาจไม่เข้ากับเนื้อหาหนังสือนัก แต่ก็คงชี้ให้คุณเห็นอะไรได้บ้าง
แต่ที่จะย้ำวันนี้ก็คือ
หนังสือประเภทข้อคิด ไม่ได้มีไว้ชวนคิดอย่างเดียวนะคะ แต่ยังชวนคุณปฏิบัติตามด้วย
มาลองทำตามข้อคิดเหล่านี้พร้อม ๆ กับเรา ดีไหมคะ (ถ้าทำได้ โลกของพวกเราคงสวยงามขึ้นเยอะนะคะ เราเชื่อว่า)
และเราหวังว่า สายเทคของเราและคนอื่น ๆ ที่ได้หนังสือเหล่านี้ไป คงรู้สึกดีที่ได้อ่าน เหมือนกับที่เรารู้สึกในตอนนี้นะคะ
ถ้าวันหลังคิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไร จะซื้อหนังสือแนวนี้อีก
Like this:
Like กำลังโหลด...