เคยคิดไหม ว่าอยากจะทำอะไร? (อาชีพ)

เราจะเขียนไงดีวะ นึกไม่ออก

จริง ๆ เราเขียนเกี่ยวกับเรื่องสิ่งที่อยากทำบ่อยมาก ในมัลติพลาย จะเขียนเป็นเรื่องเป็นราว เป็นทำแบบสำรวจอาชีพ ทำเยอะมาก http://pranitee.multiply.com/tag/%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD เข้าขั้นประสาทแดก

แต่สรุปก็ยังไม่ได้ทำเท่าไร

ก็มานั่งคิด ๆ (จริง ๆ เรื่องนี้เราคิดเรื่อย ๆ อยู่แล้ว) แต่ ณ เวลานี้ อาชีพที่น่าจะบูมที่สุด คือ ซ่อมบ้าน ซ่อมรถ บูมแน่ ๆ อ่ะ (คือความต้องการมีทั่วหัวระแหง)

นอกนั้นไม่รู้เลยอ่ะ

แต่อยากเท้าความกลับไป ถึงความใฝ่ฝันเมื่อครั้งเยาว์วัย จนถึงแก่ป่านนี้ เท่าที่เราจำได้

ตั้งแต่เกิด เวลาคนถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร
เด็กมาก ๆ ตอบว่า ครู เหตุผลคือ โลกนี้มีกี่อาชีพไม่รู้ แต่พ่อแม่ของเราเป็นครู เรารู้จักอาชีพเดียว

พออยู่ป.3 ตอบในห้องไปว่า อยากเป็นนางสาวไทย -*-
แต่ตอบเบา ๆ เพื่อนที่นั่งข้าง ๆ แม่งตะโกนลั่นห้อง โคตรอับอายเลยอ่ะ

หลังจากนั้นเหมือนนึกไม่ออก

ช่วงมัธยม ไล่ไม่ค่อยถูก แต่มีช่วงนึงที่ดาราชื่อ แอม วฤนดา สมศิริ หรือไงเนี่ย เขาเรียนกฎหมาย เขาท่องกฎหมายออกรายการเกมโชว์สักรายการ พูดเลย ความผิดแบบนี้ ผิดมาตรานี้ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ โอ้ย ฟังแล้วชอบมาก ตั้งใจเลย กรูจะเป็นทนาย
พอโตขึ้นอีกหน่อย หรือดูละครมาก พบว่าทนายเหี้ย ๆ แต่เก่ง สามารถว่าความให้คนถูกกลายเป็นคนผิดได้ เลยไม่อยากเป็นแล้วทนาย

พอม.3 ต้องเขียนในระเบียน โห ม.1-3 4-6 เลยนี่หว่า (ระเบียนอยู่ใกล้มือ)
ม.1 ไกด์ ครู หมอฟัน
ม.2 หมอฟัน ครูสอนดนตรี นักธุรกิจ
ม.3 หมอฟัน ครูสอนดนตรี ทนายความ (ตอนนี้แน่เลย ที่ดูดาราชื่อแอมน่ะ)
ม.4 นักจิตวิทยา ครู เว็บมาสเตอร์
ม.5 นักจิตวิทยา ครู เว็บมาสเตอร์
ม.6 นักจิตวิทยา ครู นักวิจัย (ผีห่าซาตานตัวไหนมาดลให้กรูเขียนเยี่ยงนี้ ตอนนี้เกลียดสุด ๆ อ่ะ นักวิจัย กร๊ากกก)
เอิ่ม แต่ มหาวิทยาลัย จากใจเลยนะ (ไม่เคยโกหก) ลอกเพื่อนว่ะ เพราะไม่รู้ว่าประเทศไทย มีมหาวิทยาลัยชื่ออะไรบ้าง อย่าว่าโง่เลย นอกจากบ้านกับโรงเรียนก็ไม่รู้จักที่ไหนเลย โง่จริง ๆ อ่ะ เพราะว่าไม่เคยได้ไปไหนเลย ตอนนั้นนั่งรถรับส่ง แล้วก็ห้างนะ ไปปีละครั้งเห็นจะได้ คือแบบ ก็ไม่ได้เดือดร้อนนะ เราว่าเราเป็นพวกเฉย ๆ อ่ะ ออกแนวหัวรุนแรงเรื่องพวกการเอาเปรียบกันในหมู่เพื่อนฝูง ความเห็นแก่ตัว (แบบเป็นนักบ้าอะไรไม่รู้ แต่ไม่สนใจ เที่ยว เทิ่ว เรียนพิเศษอะไร ไม่มี สยามคืออะไร ไปทำไม กูไม่สนใจ ไม่สนจริง ๆ ไม่เคยขอไปเรียนพิเศษเลย รู้อย่างเดียว อยากทำอะไรก็ขอแม่ แม่ไม่ให้ก็ไม่ทำ ขอไปฝึกงานที่โรงพยาบาล ตามเพื่อน แต่อันนี้เหมือนไม่ค่อยอยากด้วย ไม่ได้รบเร้า เพราะไม่ได้อยากเป็นหมอ จำได้ตอน ม.4อ่ะนะ เพื่อนไปแม่งยกห้อง แต่เราไม่ไปอยู่คนเดียวมั๊ง ฮาป่ะ ตลกดี อ้าวก็กูไม่ได้อยากเป็นหมออ่ะ เออ เคยอยากเป็นหมอฟันอ่ะ เหตุผลคือ เล็ก ๆ เราทำฟันบ่อย รู้สึกว่าหมอคงรวยมาก ได้เงินจากแม่เราไปมหาศาล 555+ เออ แต่ขอไปทำงานปิดเทอม ร้านอาหาร ร้านฟาสฟู้ด ไม่ได้หรอก แค่ขอไปเดินห้าง แม่ยังตามไปนั่งโต๊ะข้าง ๆ เลย เพื่อนแซวแม่งทุกนัด จนมันเลิกชวนเราอ่ะ แต่นะ ตอนนั้นเราก็เฉย ๆ ว่ะ ห่าเอ๊ย ฤาชีวิตกูจะเฉยนานเกินไป 555+)
นอกนั้นเรื่อยเปื่อยมาก แต่เรียนอยู่ในเกณฑ์ดีมาก
และอยู่โรงเรียน เด่นมาก เพราะเป็นคนนำร้องเพลงชาติ 555+

ออกนอกเรื่องไปไกล

เหมือนเคยตอบว่าอยากเป็นหมอนะ แต่ก็จำไม่ได้ว่าตอนไหน
อาจจะประถมปลายแหละ

แต่ที่จำได้อีกทีคือ ตอนม.6 จริง ๆ อยากเอนท์ไปเชียงใหม่ (กูต้องบ้าแน่ ๆ) แต่อยากมาก หากแต่ที่บ้านไม่ให้ (พอดีแค่เกริ่น ๆ ว่าอยากไปเรียนเชียงใหม่ คณะหอกหักอะไรก็ว่าไป)
ปล.จุฬาดีที่สุด ธรรมศาสตร์เลิศมาก ไรเงี๊ย เราไม่เคยรู้นะ เรารู้แต่ว่าพ่อแม่เราจบมศว และ ณ ตอนนั้นพี่เราก็เรียน มศว เราว่าเราอยากแปลก ๆ ดูบ้าง (เพราะปกติ กูก็เป็นคนแปลก ๆ อยู่แล้ว) แต่พอที่บ้านไม่ให้ ก็เลยสอบตรง มศว กับบูรพา เทคโนการศึกษา เหตุผลคือจะเรียนอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องเจอแคลคูลัส กับฟิสิกส์ (กูเรียนแล้วป่วยมาก) คิดโง่ ๆ แต่นะ สิ่งที่ผ่านไปแล้ว ย่อมดีที่สุดแล้ว (ถ้าไม่พอใจ ก็จงทำวันนี้ให้ดีกว่า) สอบตรงที่บูรพานี่ไม่มีสอบข้อเขียน แต่ มศว มี (พอดีตอนนั้นชอบรุ่นพี่คนนึง พี่เขาชวนให้ไปเรียนที่ มธ. คณะสักอย่าง จำไม่ได้ ออกแนวศึกษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใจอยากไปมาก เพราะตอนนั้นชอบพี่เขามาก (โคตรเก่งอ่ะคนนี้ เก่งโคตรรรรรรรรรรร) กร๊ากก เราแรด แต่นะ ก็แค่แรดแบบเด็ก ๆ (ไม่ได้เป็นพวกร่าน) เขาอุตส่าห์แนะนำ (เรียนที่เดียวกับเขา) แต่ที่บ้านด่าได้อีก สุดท้ายเลยไม่คิดจะไปแล้ว 555+) และพอไปสอบเอนท์จริง ๆ เออ มันบัดซบดีเนอะ คือเราไม่นิยมในระบบ แล้วพอดีได้สอบตรง บูรพาอ่ะได้แล้ว อาจารย์ที่สัมภาษณ์ยังบอกว่า คุณเก่ง ถ้า (ประมาณ) มีโอกาส คงได้สอนคุณ ไรเงี๊ย ฟังแล้วงงมาก สัมภาษณ์คนแรกด้วย เลยดีใจมาก ตอนนั้นกลัวไม่มีที่เรียน เพราะคาดว่าเอนท์ไม่ติดแน่กรู คะแนนเอนทร์ห่วยแตกมาก ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เลข เข้าไปกามั่ว บัดซบ เด็ก ๆ อ่านกรุณาอย่าทำตาม คือสิ้นคิดสุด ๆ แล้วอ่ะ แต่ที่เหลือตั้งใจนะ แต่คะแนนก็ไม่ดีอ่ะ ควายมาก) แต่ตอนหลังไป มศว (ยอมไม่รายงานตัวที่บูรพา เพราะมั่นใจว่าได้มศวแน่ ๆ เพราะที่มศว อาจารย์ก็บอกว่าเกรดดีมาก เข้าไปถึงรู้ว่า เราเกรดเป็นที่ 1 แต่นะเกรดไม่สามารถวัดความสำเร็จของคนได้หรอก เราประจักษ์เองแล้ว)

เออ ลืมเล่า ตอนม.6 มีความรู้สึกเยอะมาก เคยอยากเรียนวนศาสตร์ของม.เกษตรด้วย เพราะว่าทำแบบทดสอบของเว็บอะไรสักอย่าง ได้แบบนั้น จะเรียนเลยนะ (แม่ง กูเชื่ออะไรง่ายชิบหาย แต่แบบเชื่อพวกแบบทดสอบไงว่าต้องเข้ากับจริตเรา) ที่บ้านบอกว่า คณะนี้มีรับน้องตาย กล้าไปเหรอ เลยไม่กล้า -*-

แล้วก็อยากเรียน ม.เกษตร เพราะว่าเคยไปตอนม.4 ไปสอบเคมีโอลิมปิกกับเข้าค่ายเคมีโอลิมปิก (รวมแล้วแค่ 2 วัน เครียด ป่วย สละสิทธิ์ ให้แม่มารับกลับบ้าน -*- แต่นะ ที่อื่นไม่เคยไปไง จุฬาก็ไปแค่สมัครเอนท์ คือเหมือน ณ ตอนนั้นรู้จักแต่ ม.เกษตร มศว ยังไม่รู้จักเลย ไม่เคยไป // โถกู โลกทัศน์โคตรคับแคบมาก)

กะว่า ถ้ายังไงจะเรียนจิตวิทยาที่ม.เกษตร
แต่มีช่วงนึง บอกกับย่า ว่าจะเรียนคณะเกษตร มาทำสวนบ้านย่า (จริง ๆ อยากนี่อ่ะ เห็นเราดัดจริตก็เหอะ เราชอบต้นไม้นะเว้ย) ย่าด่าใหญ่เลย บอกว่า เลี้ยงจนโต จะส่งให้เป็นเจ้าคนนายคน ดันอยากมาทำไร่ทำนาทำสวนตากแดดตัวดำ
// โอ้ย ฟังเสร็จ เลิก ๆ ล้มเลิก

สรุปก็ไปเรียนเทคโน ระหว่างเรียนไม่ได้โรยกลีบกุหลาบนะ เพราะว่าเทคโนนี่โลดโผน เรานี่ร่วมกิจกรรมน้อยสุด (แม่ไม่ให้ไป เพื่อนด่าบ้างเรื่องกิจกรรม โอ้ยสรุปโดนด่า ทุกทาง แต่ก็นะจบมาได้ ขอบคุณความอดทนของดิฉัน จบมาแบบโลกทัศน์แคบ ๆ แต่เพื่อนน่ารัก เคยมีอาจารย์บอกว่า เพื่อนมัธยมจะสนิทที่สุด แต่เราขอบอกว่า เพื่อนมหาวิทยาลัยที่เรียนเอกเดียวกันและรับปริญญาพร้อมกันต่างหากที่สนิทที่สุดเพราะมันได้ผ่านการต่อสู้บนเส้นทางเดียวกันมาอ่ะ เพื่อนมัธยม ถ้าเรียนคนละสาขา ต่อให้ตอนมัธยมสนิทแค่ไหน ก็ต่อไม่ค่อยติดแล้ว จริง ๆ นะ แต่เราก็รักเพื่อนสนิทตอนมัธยมของเรานะ รักมาก แต่หลัง ๆ พูดกันไม่ค่อยรู้เรื่อง หรือเราพูดไม่รู้เรื่องเองก็ไม่รู้ ที่เขียนถึงเนี่ย เพื่อจะบอกว่า กลุ่มเพื่อน มีความสำคัญกับชีิวิตมาก ๆ โอเคคุณหาเพื่อนใหม่ได้ตลอดเวลา แต่ความไว้วางใจ เพื่อนป.ตรีเท่านั้น ที่ถือว่าน่าไว้วางใจได้ระดับมาก ๆ อ่ะ เราคิดงี้นะคะ ใครไม่คิดก็ไม่เป็นไร)

ตี 2 แ้ล้ว เตรียมไปดีกว่า ป๋าตื่นมากรูตายแน่ๆ

แต่เออ อีกนิด
ล่าสุดบอกป๋าไปว่า ป๋า แอมอยากเพาะเลี้ยงกล้วยไม้ (เราชอบทำงานในห้องแลป เราชอบเรื่องเทคโนโลยีชีวภาพมาก น่าเสียดายที่เราโง่ไม่ยอมทนเรียน เราอยากทำงานในห้องแล็ป ใส่ชุดสีขาว และฉีดพ่นแอลกอฮอลที่มือ (โคตรฮาอีนี่) เอาเข็มเขี่ย ชิ้นเนื้อเยื่อลงวุ้นในจานเพาะเลี้ยง กร๊าก ๆ — เราเคยอบรมที่ลาดกระบัง 4 วัน ชอบมาก ขอบอก ชอบมากแต่วิทย์ไง แคลคูลัสลอยมา เลยไม่เรียน -*-)
ป๋าบอกว่า หนูมีความรู้เหรอ โอเค จบข่าว ตอนนี้ไม่มี

เราอยากไปช่วยเจ๊หุย ทำเว็บขายเสื้อของเขา (เสื้อของเขา จะขายเป็นมือสอง) มาเป็นลัง ๆ เลย จากอเมริกา แต่เราต้องไปขลุกบ้านป้า ไปจัดแสง ถ่ายรูป คือคิดว่าทำได้แน่ ๆ ชอบ ด้วย เอามาลงเพจ แล้วหาทางโปรโมตให้ เวลามีคนสนใจก็ตอบ ให้เขาโอนเงินเข้าบัญชีเจ๊หุยไปเลย แล้วก็ส่ง SMS มาเบอร์เราก็ได้ กรณีเจ๊หุยไม่ว่างดูเพจ เราก็สรุปยอด สรุปที่อยู่ลูกค้าไปทางอีเมล ไรเงี๊ย ชอบชอบมาก ชอบทำงานหน้าคอม 555+ แต่นะ จะไปวันไหน ในเมื่อไปไหนเองไม่ได้

เราทำได้ทุกอย่างที่ไม่ผิดกฎหมายและศีลธรรมและไม่ขัดความรู้สึกของเรา ถ้าได้ตังค์ + เราไม่้ต้องเดินทาง อ่ะ เราอยากทำหมดแหละ ก็หาทางอยู่

วันก่อนคุณแม่จุ๊บก็บอกว่าแอมไม่เป็นฟรีแลนซ์รับออกแบบเว็บ ไรก็ว่าไปล่ะ คนที่แม่จุ๊บรู้จักได้เดือนเป็นหมื่นเป็นแสน มีลูกค้าต่างชาติ เราก็ตอบคุณแม่ไปว่า หนูไม่ค่อยมีความรู้เยอะ หนูกลัวว่าจะเสียชื่อมากกว่าได้เงินอ่ะค่ะ (ลึก ๆ ตอนนี้คือ ขอรามให้จบก่อน ปล.รามเนี่ย ไปเรียนมนุษย์อิงค์ให้แม่ เพราะแม่เคยว่าไว้ว่า ถ้าเราเรียนมนุษย์อิงค์แต่แรก ไม่ใช่เทคโน ชีวิตเราคงไม่เป็นแบบนี้ T.T เราก็เลยไปเรียน แต่นะ เราก็ไม่ค่อยตั้งใจเรียนเท่าไร แบบไม่เข้าเรียนไง อิอิ ก็บอกแล้วว่าไปไหนไม่ได้ โอ้ย จะพูดซ้ำทำไม)

เราไม่หนีไปนะ เราไม่ต้องการทำให้แม่เราทุกข์ใจ เข้าใจป่ะ ถึงเราจะดีเรื่องอื่นไม่ได้ แต่เราก็ไม่อยากเลวด้วยเรื่องเล็ก ๆ แค่นี้ เมื่อแม่ไม่ให้ไป เราก็จะดีในแบบของเรา ซึ่งถ้าใครไม่เข้าใจ เราก็ไม่รู้จะทำไง เพราะนี่มันเรื่องของเรา -*- ก็ทำเท่าที่ทำได้

ล่าสุด ขอไปงานนึง แม่ไม่พอใจใหญ่เลย ตะกี้เอง แม่บอกว่า ถ้าแอมอยู่บ้านวันนั้น แม่จะสบายใจมาก แอมทำให้แม่ไม่สบายใจ แต่นะเอซังมาเคลียร์ให้แล้ว แบบว่าไปด้วยกัน จบข่าว เห้อ ชีวิตกู บางทีความคิดที่แม่จะ้เปิดร้านซีรอกให้ คงเหมาะแล้ว แต่เมื่อไรเท่านั้นเอง 555

เออ แต่ ณ ปัจจุบัน เรารู้อย่างเดียว คือเราชอบสอน เราจะเป็นครู วิชาอะไรเดี๋ยวดูอีกที (ไปเรียนดนตรีเพิ่มเพื่อสอนดนตรี แล้วทำธุรกิจด้วย หรือไงดี)

จริง ๆ ถ้าญาติเราสักคนมีร้าน แล้วขอเราไปทำร้าน ไปเฝ้าหน้าร้าน ไปอะไรก็ว่าไป เราว่าแม่ให้ไปว่ะ 555+ นี่ก็อยากชวนลูกพี่ลูกน้องอยู่ จะลาออกจากงานปลายเดือนนี้แล้ว น่าสงสาร ทำงานแล้วเจอแบบเราเลย ได้เงินมากกว่าเรา สองเท่า เขายังไม่ทนเลยอ่ะ โรงเรียนเอกชนแม่งเหี้ยกับครูทุกที่เลยป่าววะ
กะว่าถ้าพี่สาวคนนี้ออกจากงาน แล้วไม่ทำงาน เราสองคนต้องหาธุรกิจทำด้วยกันแล้วแหละ เริ่มคิด ๆ แล้ว (พี่สาวเราคนนี้จบป.โทนิติศาสตร์)

และอีกประการ ถ้าอีก5ปี เรายังไม่เป็นโล้เป็นพายจะด้วยสาเหตุใดก็ตามแต่ เราจะได้เข้าสวนไปทำสวนกับคุณป๋าที่บ้านย่า 555+ ซึ่งนี่คือความฝันของเรา แดดร้อนไม่กลัว หน้ากรูกร้าน หน้าก็ด้าน ผิืวดำก็ช่างมัน ใส่ใจที่ไหน ขอแค่ทำอะไรก็ได้ ที่ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดศีลธรรม ไม่ได้ไปหนักหัวใคร ความสุขของคนเราแตกต่างกัน เราพยายามทำให้คนสำคัญของเรา ได้รับความสุขจากเรามากกว่าความทุกข์จากเรา (แม้ความสุขและทุกข์ ที่ว่า จะเป็นคนละชุด กับความสุขและทุกข์ของมนุษย์คนอื่น ๆ ก็ตาม) แต่นะ อะไรที่พอทำได้ ให้กำลังใจคนในโลกได้ เราก็จะยังทำต่อไป สวัสดีค่ะ 2:22 ไม่ตรวจทานนะคะ กรูรีบ กลัวป๋าตื่น 555

ใส่ความเห็น